หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Chapter 2 : การเดาความหมายศัพท์ (Guessing word meaning)

บทที่ 2 : การเดาความหมายศัพท์นี้ เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการอ่านมากเลยค่ะ  เพราะ บางครั้งเวลาเราอ่านบทความ หรือ ข่าว เรามักจะเจอคำศัพท์ที่เราไม่คุ้นเคย รวมถึงการทำข้อสอบเราก็ไม่สามารถเปิด dictionary ได้  ดังนั้นบทนี้อุ๊กอิ๊กจะสอนเกี่ยวกับการเดาความศัพท์กันนะคะ  


2.1) Definition Clues: เดาจากคำนิยาม/คำจำกัดความ

           เป็นการบอกความหมายของคำศัพท์ตรงๆ ชัดเจน ทำให้เรารู้ว่า หน้า = หลัง หรือ 1= 2 ตามที่สอนไปนั่นเอง วงเล็บ [...] ใช้ครอบส่วนขยายคำนาม (relative clause) เพื่อช่วยให้เราเข้าใจประโยคยาวๆ ได้ง่ายขึ้น เหมือนที่ทำให้ดูในเรื่อง Mammoth   

ตัวอย่าง 
   1.) v. to be  ได้แก่  is / are / was / were = คือ          
            A mammoth is a mammal [that lived during the Ice Ages].   
           แมมมอธ คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งที่อาศัยในยุคน้ำแข็ง 

 2.) mean  = หมายถึง/ หมายความว่า      
     A glacier means an extremely large mass of ice [which moves very slowly, often  down a mountain valley].      
    ธารน้ำแข็ง หมายถึง ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาที่เคลื่อนที่ช้ามาก มักจะไหลจากภูเขา ลงสู่หุบเขา 

3.) is/are known as = รู้จักกันในนาม        
   Triangles [that are the same shape and size] are known as congruent triangles.        
      สามเหลี่ยมที่มีรูปร่างและขนาดเท่ากันรู้จักกันในนามสามเหลี่ยมที่เท่ากันทุกประการ


2.2) Punctuation Clues: เดาจากเครื่องหมายวรรคตอน

           เครื่องหมายวรรคตอนที่ตามหลังคำศัพท์บางคำ เป็นตัวช่วยบอกความหมายหรือ  อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์ที่อยู่ข้างหน้า  
       
ตัวอย่างแรก   comma (,)   


 1.)    You can take an escalator, moving staircase, up to the second floor.          (n.) escalator= a moving staircase ( บันไดเลื่อน )

ตัวอย่างที่สอง  parentheses (วงเล็บ)
   1.)  Traffic signs tell drivers and pedestrians (walkers) what to do and what not to do while driving, riding and walking
           (n.) pedestrians = walkers (คนเดินถนน) 

2.3) Restatement and Synonym Clues: เดาจากการพูดซ้ำหรือคำที่มีความหมายเหมือน

           สังเกตจากคำว่า or หรือสังเกตจากการพูดซ้ำหรืออธิบายคำศัพท์ซ้ำ
        
ตัวอย่าง

 1.) The dromedary, or commonly called a camel, stores fat in its hump.          
               dromedary, หรือปกติเรียกว่าอูฐ, เก็บไขมันไว้ที่หนอกของมัน      
    คำว่า "or" หรือ "or commonly called" บอกให้รู้ว่า dromedary สามารถเรียก  อีกอย่างหนึ่งได้ว่า อูฐ         dromedary คือ อูฐที่มีหนอกเดียว





2.) Some plants catch and eat insects. They are called carnivorous or insect-eating plants.        
    พืชบางชนิดจับและกินแมลง พวกมันถูกเรียกว่า carnivorous หรือพืชที่กินแมลงcarnivorous = insect-eating
             ประโยคแรกบอกอยู่แล้วว่าเป็นพืชที่กินแมลง และมาเน้นย้ำอีกทีด้วยคำว่า or insect-eating plants ชัดเจนที่สุด แต่อย่าลืมนะที่สอนไว้ แปลจากหลังมาหน้า insect-eating plants พืชกินแมลงนะ ไม่ใช่แมลงกินพืช





2.4) Contrast and Antonym Clues: เดาจากคำที่มีความหมายตรงกันข้าม 

            การแสดงความขัดแย้งเป็นการเปรียบเทียบเพื่อบอกความต่างกัน หรือความขัดแย้งกัน  เช่น although, but, even if, even though, however, in comparison to, in contrast (to), in opposition to, in spite of, instead of, nevertheless, on the other hand, whereas, while 

ตัวอย่าง


1.) The man was portly, but his wife was thin.              
             ผู้ชายคนนั้น portly แต่ภรรยาของเขาผอม   เห็นคำว่า "but" หรือ "however" รู้ทันทีว่าประโยคหน้าและหลังขัดแย้งหรือตรงข้ามกัน   เดาได้เลยว่า portly น่าจะแปลว่า not thin หรือ ไม่ผอมนั่นเอง  คำว่า portly หมายถึง มีรูปร่างอ้วน เป็นคำที่ใช้แบบไม่เป็นทางการ และส่วนใหญ่ใช้กับผู้ชาย 

2.) The science project was easy, whereas the math homework was arduous.          
            โครงงานวิชาวิทยาศาสตร์ง่าย ในขณะที่การบ้านวิชาคณิตศาสตร์ arduous        "whereas" เป็นอีกหนึ่งตัวที่แสดงให้เห็นความขัดแย้งของประโยคหน้าและหลัง ดังนั้น ในเมื่อโครงงานวิทยาศาสตร์ง่าย การบ้านคณิตศาตร์ต้องขัดแย้งหรือตรงข้ามกัน นั่นคือ arduous = not easy (difficult)           


2.5) Example Clues: เดาจากการยกตัวอย่าง     

         การยกตัวอย่างประกอบเป็นการทําให้คําหรือข้อความนั้นมีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น  เช่น such as, for example, for instance, like  

ตัวอย่างแรก   Such as

 1.) Most condiments, such as pepper, mustard and ketchup, are used to improve the flavor of foods.        
            condiments ส่วนใหญ่ เช่น พริกไทย มัสตาร์ด และซอสมะเขีอเทศ ถูกนำมาใช้ในการปรุงรสอาหาร        
            condiments = เครื่องปรุงรสอาหาร สรุปได้จากตัวอย่างที่ให้ คือ พริกไทย มัสตาร์ด และซอสมะเขีอเทศ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นสิ่งที่เราใช้ปรุงรสทั้งสิ้นจ้า
  
ตัวอย่างที่สอง  Example


1.) This third grade was full of precocious children. For example, one child had learned to read at two and another could do algebra at the age of 6.          
           เด็กประถมปีที่ 3 ห้องนี้เต็มไปด้วยเด็กที่ precocious เช่น เด็กคนหนึ่งเรียนการอ่านได้ตั้งแต่ 2 ขวบ และ อีกคนสามารถทำพีชคณิต (แก้สมการ) ได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบดูจากตัวอย่าง (for example) ก็พอเดาได้ใช่ใหม่ว่าเด็กเหล่านี้ เก่งเกินวัย หรือเป็นเด็กอัจฉริยะprecocious = very clever, mature and good at something   บางครั้งเราจะเห็นตัวย่อ e.g. ให้รู้ไว้ว่า ความหมายของมันเท่ากับ for example



ถ้าเพื่อนเข้าใจแล้ว มาลองทำแบบทดสอบกันดูค่ะ 
แบบทดสอบการเดาคำศัพท์
แบบทดสอบการเดาคำศัพท์จาก Clues

เอาละค่ะ ก็หวังกันว่าเพื่อนๆจะเข้าใจขึ้นบ้างเล็กน้อยนะคะ
ต่อไปนี้เวลาอ่านข้อสอบ reading คงสามารถทำได้ขึ้นมาบ้างนะคะ ....อิอิ  



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น