หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Chapter 3 : การหาหัวเรื่องและใจความสำคัญ (Finding the topic and the main idea)

มาถึงบทที่ 3 กันแล้วนะคะ บทนี้ จะพูดถึงเรื่องของ topic และ main idea กันค่ะ เพราะ ถ้าหากเราไม่สามารถเข้าใจ main idea ของเรื่องที่เราจะอ่าน จะทำให้เพื่อนๆไม่สามารถเข้าใจบทความนั้นๆได้เลยค่ะ  เพราะฉะนั้น แล้ว การหา main idea และ topic ของเรื่อง ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ 




ใจความสำคัญ (Main Idea) คืออะไร ?

         Main Idea คือ ใจความสำคัญหรือใจความหลักของเรื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของ
เรื่อง 


Main Idea มี 2 ชนิด

        1. State main idea คือ หลักใหญ่ใจความที่สำคัญที่สุดของเรื่อง ซึ่งผู้เขียนบอกมาตรง ๆ สามารถครอบคลุมเนื้อหาของเรื่องได้ทั้งหมด 

        2. Implied main idea  หมายถึง การกล่าวถึง main idea ในลักษณะที่ผู้เขียนไม่ได้เอ่ยมาตรง ๆ ทันที เพียงแต่แสดงนัยให้เห็นเท่านั้น ผู้อ่านต้องวินิฉัยเอาเองเพื่อให้เห็นได้ชัด


ตำแหน่งของ Main Idea



1.) อยู่ตรงต้นเรื่อง 

ตัวอย่าง
           A baby elephant is the biggest of all land babies. A newborn baby weighs more than two hundred pounds. It is about three feet high. The new baby is strong, too. Almost as soon as it is born, it can walk about. 

           ย่อหน้านี้กล่าวถึงลูกช้างว่าเป็นลูกสัตว์บก (land babies) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยบอกว่า ลูกช้างที่เกิดใหม่ จะมีน้ำหนักมากกว่า 200 ปอนด์ และสูงราว ๆ 3 ฟุต นอกจากนี้ ยังแข็งแรงด้วย เพราะตอนที่คลอด
ออกมา มันจะสามารถเดินได้ทันที ดังนั้น ใจความสำคัญ (main idea) จึงอยู่ที่ประโยคแรก คือ A baby elephant is the biggest of all land babies.


2.) อยู่ตรงกลางเรื่อง


ตัวอย่าง
            Keep your tree outdoors until the day before Christmas. Never use lighted candles. There are also other suggestions for avoiding a Christmas tree fire. Turn off the lights before you leave the house and throw away the tree by New Year's Day. 

            ย่อหน้านี้กล่าวถึงคำแนะนำ เพื่อหลีกเลี่ยง มิให้เกิดไฟไหม้ต้นคริสต์มาสว่า ให้นำต้นคริสต์มาสไปไว้นอกบ้าน ก่อนจะถึงวันคริสต์มาสและไม่ให้จุดเทียนไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังแนะนำอีกว่า ให้ปิดไฟก่อนออกจากบ้าน และทิ้งต้นไม้เมื่อถึงวันปีใหม่ ดังนั้น ใจความสำคัญ (main idea) จึงอยู่ที่ประโยคกลาง คือ There are also other suggestions for avoiding a Christmas tree fire.

3.) อยู่ท้ายเรื่อง

ตัวอย่าง
             Most people are free to enjoy themselves in the evenings and on weekends. Some spend their time watching television, listening to the radio, or going to movies; others participate in sports. It depends on their interests. There are various ways to spend one's free time.            
             ย่อหน้านี้กล่าวถึง การใช้เวลาว่างของคนในตอนเย็น และวันสุดสัปดาห์ว่า บางคนจะดูโทรทัศน์ บางคนฟังวิทยุ ไปชมภาพยนตร์หรือไปเล่นกีฬา มันขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน มีวิธีที่จะใช้เวลาว่างมากมายหลายวิธี
ดังนั้น ใจความสำคัญ (Main Idea) จึงอยู่ที่ประโยคท้าย คือ There are various ways to spend one's free time.



Topic ( หัวเรื่อง ) 


แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ

              
 1. Topic Noun หรือเรียกสั้นๆ ว่า Topic
           

  2. Topic Sentence




1.) Topic Noun

           คือหัวเรื่องที่เป็นคำนามที่เด่นในเนื้อเรื่องหรือในย่อหน้า ผู้เขียนจะกล่าวคำนามตัวนั้นซ้ำๆ ในประโยคหลายๆ ครั้ง หรืออาจจะใช้คำสรรพนามแทนคำนามที่อ้างถึงบ่อยๆ

ตัวอย่างแรก


What is topic noun ?             
         football    baseball     tennis     sports      skiing           
   เฉลย : Sport เพราะ ฟุตบอล,เบสบอล,เทนนิส และ สกี คือส่วนประกอบของกีฬา

ตัวอย่างที่สอง


             The family hurried to the cellar and waited. First, they heard the pounding of the hailstones. The wind became deafening, and  the children started crying.  Suddenly it was silent.  They waited   awhile  before  they  ventured  outside  to see the damage  the tornado had done.        
                ครอบครัววิ่งตรงไปที่เพดานห้องและคอย ตอนแรกพวกเขาได้ยินเสียงบดของลูกเห็บ ลมเริ่มทำให้หู    อื้อ และเด็กๆ เริ่มร้องไห้ ทันใดนั้นมันเริ่มสงบลงพวกเขาคอยสักคู่ก่อนที่พวกเขาจะออกไปข้างหน้าเพื่อดู  ความเสียหายที่พายุทอร์นาโดทำขึ้น           จะเห็นได้ว่าย่อหน้านี้พูดถึงเรื่องพายุทอร์นาโด ซึ่งอยู่ในประโยคสุดท้ายดังนั้น Topic Noun คือ Tornado (ทอร์นาโด)




2.) Topic Sentence (ประโยคหลัก)

            Topic Sentence มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Main Idea นั่นเอง ชื่อของมันก็บอกแล้วว่า Topic Sentence ดังนั้น ลักษณะในการนำเสนอจะต้องเป็นประโยคเท่านั้น 

ตัวอย่างแรก


             Some insects destroy plants and trees. Some destroy stored grain, flour and meal. Some attack clothing  and carpets. Others cause discomfort to animals by boring into their skin, biting or stinging. Some insects are real ests but many are helpful, too. Some eat harmful larvae. Others help with decay by eating rotting wood and plants. 

              จากเรื่องข้างบน จะเห็นว่า Topic Noun คือ InsectsTopic Idea คือ Insects - good and bad  Topic Sentence อยู่ในประโยคที่ 5 ของเรื่อง นั่นก็คือ Some insects are real pests but many are helpful, too.  ถ้าพิจารณาดีๆ แล้ว ทั้ง Topic Idea และ Topic Sentence ก็ต้องการสื่อความหมายเดียวกัน เพียงแต่ Topic Idea เป็นนามวลี และ Topic Sentence เป็นประโยคเท่านั้นเอง


ตัวอย่างที่สอง



                 The gathering stage consists of researching, brainstorming, and analyzing in order to come up with a thesis. The next stage, organization, requires you to think about a logical and persuasive arrangement for your various ideas. The writing stage requires you to sit down and, following and outline, construct your essay. The fourth and final stage involves endless revision: going over and over what you've written to make it better.
                
                  จากเรื่องข้างบน พูดถึงขั้นตอนของการเขียน (writing) ประกอบด้วย การวิจัย , ระดมความคิด และ วิเคราะห์เพื่อมาเขียนข้อสรุป(thesis) ขั้นตอนต่อไป คือการรวบรวมความคิด ต่อมาคือ ขั้นตอนการเขียน และขั้นตอนที่ 4 คือ การแก้ไข ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า Topic Sentence ของ paragraph ด้านบน คือ The writing process consists of four main stages: gather, organize, write, revise.




ถ้าเพื่อนเข้าใจแล้ว เรามาลองทำแบบทดสอบวัดระดับความรู้กันสักนิดนะคะ

แบบทดสอบ Main Idea 
แบบทดสอบ Main Idea 2
แบบทดสอบ Main Idea และ Topic

              หวังว่าเพื่อนคงเข้าใจ วิธีการหา main idea และ Topic กันมากขึ้นนะคะ  ยังไงก็ลองนำวิธีใช้เอาไปทำข้อสอบ Reading Comprehension กันดูนะคะ  ขอให้โชคดีกับการสอบทุกคนค่ะ







Chapter 2 : การเดาความหมายศัพท์ (Guessing word meaning)

บทที่ 2 : การเดาความหมายศัพท์นี้ เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการอ่านมากเลยค่ะ  เพราะ บางครั้งเวลาเราอ่านบทความ หรือ ข่าว เรามักจะเจอคำศัพท์ที่เราไม่คุ้นเคย รวมถึงการทำข้อสอบเราก็ไม่สามารถเปิด dictionary ได้  ดังนั้นบทนี้อุ๊กอิ๊กจะสอนเกี่ยวกับการเดาความศัพท์กันนะคะ  


2.1) Definition Clues: เดาจากคำนิยาม/คำจำกัดความ

           เป็นการบอกความหมายของคำศัพท์ตรงๆ ชัดเจน ทำให้เรารู้ว่า หน้า = หลัง หรือ 1= 2 ตามที่สอนไปนั่นเอง วงเล็บ [...] ใช้ครอบส่วนขยายคำนาม (relative clause) เพื่อช่วยให้เราเข้าใจประโยคยาวๆ ได้ง่ายขึ้น เหมือนที่ทำให้ดูในเรื่อง Mammoth   

ตัวอย่าง 
   1.) v. to be  ได้แก่  is / are / was / were = คือ          
            A mammoth is a mammal [that lived during the Ice Ages].   
           แมมมอธ คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งที่อาศัยในยุคน้ำแข็ง 

 2.) mean  = หมายถึง/ หมายความว่า      
     A glacier means an extremely large mass of ice [which moves very slowly, often  down a mountain valley].      
    ธารน้ำแข็ง หมายถึง ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาที่เคลื่อนที่ช้ามาก มักจะไหลจากภูเขา ลงสู่หุบเขา 

3.) is/are known as = รู้จักกันในนาม        
   Triangles [that are the same shape and size] are known as congruent triangles.        
      สามเหลี่ยมที่มีรูปร่างและขนาดเท่ากันรู้จักกันในนามสามเหลี่ยมที่เท่ากันทุกประการ


2.2) Punctuation Clues: เดาจากเครื่องหมายวรรคตอน

           เครื่องหมายวรรคตอนที่ตามหลังคำศัพท์บางคำ เป็นตัวช่วยบอกความหมายหรือ  อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์ที่อยู่ข้างหน้า  
       
ตัวอย่างแรก   comma (,)   


 1.)    You can take an escalator, moving staircase, up to the second floor.          (n.) escalator= a moving staircase ( บันไดเลื่อน )

ตัวอย่างที่สอง  parentheses (วงเล็บ)
   1.)  Traffic signs tell drivers and pedestrians (walkers) what to do and what not to do while driving, riding and walking
           (n.) pedestrians = walkers (คนเดินถนน) 

2.3) Restatement and Synonym Clues: เดาจากการพูดซ้ำหรือคำที่มีความหมายเหมือน

           สังเกตจากคำว่า or หรือสังเกตจากการพูดซ้ำหรืออธิบายคำศัพท์ซ้ำ
        
ตัวอย่าง

 1.) The dromedary, or commonly called a camel, stores fat in its hump.          
               dromedary, หรือปกติเรียกว่าอูฐ, เก็บไขมันไว้ที่หนอกของมัน      
    คำว่า "or" หรือ "or commonly called" บอกให้รู้ว่า dromedary สามารถเรียก  อีกอย่างหนึ่งได้ว่า อูฐ         dromedary คือ อูฐที่มีหนอกเดียว





2.) Some plants catch and eat insects. They are called carnivorous or insect-eating plants.        
    พืชบางชนิดจับและกินแมลง พวกมันถูกเรียกว่า carnivorous หรือพืชที่กินแมลงcarnivorous = insect-eating
             ประโยคแรกบอกอยู่แล้วว่าเป็นพืชที่กินแมลง และมาเน้นย้ำอีกทีด้วยคำว่า or insect-eating plants ชัดเจนที่สุด แต่อย่าลืมนะที่สอนไว้ แปลจากหลังมาหน้า insect-eating plants พืชกินแมลงนะ ไม่ใช่แมลงกินพืช





2.4) Contrast and Antonym Clues: เดาจากคำที่มีความหมายตรงกันข้าม 

            การแสดงความขัดแย้งเป็นการเปรียบเทียบเพื่อบอกความต่างกัน หรือความขัดแย้งกัน  เช่น although, but, even if, even though, however, in comparison to, in contrast (to), in opposition to, in spite of, instead of, nevertheless, on the other hand, whereas, while 

ตัวอย่าง


1.) The man was portly, but his wife was thin.              
             ผู้ชายคนนั้น portly แต่ภรรยาของเขาผอม   เห็นคำว่า "but" หรือ "however" รู้ทันทีว่าประโยคหน้าและหลังขัดแย้งหรือตรงข้ามกัน   เดาได้เลยว่า portly น่าจะแปลว่า not thin หรือ ไม่ผอมนั่นเอง  คำว่า portly หมายถึง มีรูปร่างอ้วน เป็นคำที่ใช้แบบไม่เป็นทางการ และส่วนใหญ่ใช้กับผู้ชาย 

2.) The science project was easy, whereas the math homework was arduous.          
            โครงงานวิชาวิทยาศาสตร์ง่าย ในขณะที่การบ้านวิชาคณิตศาสตร์ arduous        "whereas" เป็นอีกหนึ่งตัวที่แสดงให้เห็นความขัดแย้งของประโยคหน้าและหลัง ดังนั้น ในเมื่อโครงงานวิทยาศาสตร์ง่าย การบ้านคณิตศาตร์ต้องขัดแย้งหรือตรงข้ามกัน นั่นคือ arduous = not easy (difficult)           


2.5) Example Clues: เดาจากการยกตัวอย่าง     

         การยกตัวอย่างประกอบเป็นการทําให้คําหรือข้อความนั้นมีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น  เช่น such as, for example, for instance, like  

ตัวอย่างแรก   Such as

 1.) Most condiments, such as pepper, mustard and ketchup, are used to improve the flavor of foods.        
            condiments ส่วนใหญ่ เช่น พริกไทย มัสตาร์ด และซอสมะเขีอเทศ ถูกนำมาใช้ในการปรุงรสอาหาร        
            condiments = เครื่องปรุงรสอาหาร สรุปได้จากตัวอย่างที่ให้ คือ พริกไทย มัสตาร์ด และซอสมะเขีอเทศ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นสิ่งที่เราใช้ปรุงรสทั้งสิ้นจ้า
  
ตัวอย่างที่สอง  Example


1.) This third grade was full of precocious children. For example, one child had learned to read at two and another could do algebra at the age of 6.          
           เด็กประถมปีที่ 3 ห้องนี้เต็มไปด้วยเด็กที่ precocious เช่น เด็กคนหนึ่งเรียนการอ่านได้ตั้งแต่ 2 ขวบ และ อีกคนสามารถทำพีชคณิต (แก้สมการ) ได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบดูจากตัวอย่าง (for example) ก็พอเดาได้ใช่ใหม่ว่าเด็กเหล่านี้ เก่งเกินวัย หรือเป็นเด็กอัจฉริยะprecocious = very clever, mature and good at something   บางครั้งเราจะเห็นตัวย่อ e.g. ให้รู้ไว้ว่า ความหมายของมันเท่ากับ for example



ถ้าเพื่อนเข้าใจแล้ว มาลองทำแบบทดสอบกันดูค่ะ 
แบบทดสอบการเดาคำศัพท์
แบบทดสอบการเดาคำศัพท์จาก Clues

เอาละค่ะ ก็หวังกันว่าเพื่อนๆจะเข้าใจขึ้นบ้างเล็กน้อยนะคะ
ต่อไปนี้เวลาอ่านข้อสอบ reading คงสามารถทำได้ขึ้นมาบ้างนะคะ ....อิอิ  



วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Chapter 1 : การอ่านแบบ Skimming และ Scanning

เอาละค่ะ เรื่องแรกที่อุ๊กอิ๊กจะนำมาสอนเพื่อนๆนั่นก็คือ ......


แต่น...เต้น เต๊นนนน การอ่านแบบ Skimming และ Scanning นั่นเองค่ะ .....อิอิ


ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง การอ่านแบบ skimming และ scanning กันก่อนนะคะ

1.) การอ่านแบบ skimming (การอ่านแบบข้าม)

       คือ การอ่านข้อความอย่างเร็วๆ เป็นจุดๆ เช่นการอ่าน 2-3 คำแรก หรือ 
2-3 ประโยคแรกแล้วข้ามไป การอ่านมีจุดมุ่งหมาย 2 ประการ คือ เพื่อเก็บประเด็น
หรือใจความสำคัญ และ อ่านเพื่อเก็บรายละเอียดที่สำคัญ เช่น การหาใจความสำคัญ (main idea ) ของบทความ

ตัวอย่างแรก


           Every second, one hectare of the world's rainforest is destroyed. That's equivalent to two football fields. An area the size of New York City is lost every day. In a year, that adds up to 31 million hectares -- more than the land area of Poland. This alarming rate of destruction has serious consequences for the environment; scientists estimate, for example, that 137 species of plant, insect or animal become extinct every day due to logging. In British Columbia, where, since 1990, thirteen rainforest valleys have been clearcut, 142 species of salmon have already become extinct, and the habitats of grizzly bears, wolves and many other creatures are threatened. Logging, however, provides jobs, profits, taxes for the govenment and cheap products of all kinds for consumers, so the government is reluctant to restrict or control it. 
1.) The main idea of paragraph  is ? 

a. Scientists are worried about New York City. 
b. Logging is destroying the rainforests. 
c. Governments make money from logging. 
d. Salmon are an endangered species.   
เฉลย : คำตอบคือข้อ b. Logging is destroying the rainforests. จากประโยคแรก พูดถึงปัญหาป่าดิบชื้นที่ได้ถูกทำลาย จนถึงประโยค "This alarming rate of destruction has serious consequences for the environment; scientists estimate, for example, that 137 species of plant, insect or animal become extinct every day due to logging " ได้กล่าวว่า นี่คือ จำนวนที่น่าตกใจและเป็นปัญหาร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม นักวิทยาศาสตร์คาดว่า จำนวนพืชกว่า 137 สายพันธ์ แมลงและสัตว์สูญพันธุ์เนื่องจาก คนตัดไม้ทำลายป่า จากประโยคแรกถึงประโยคสุดท้ายได้พูดถึงการตัดไม้ทำลายป่ามีผลเสียอย่างไรบ้าง เพราะ ฉะนั้นจึงตอบข้อ B อาชีพตัดไม้เป็นการทำลายป่าดิบชื้น

ตัวอย่างที่สอง
           Much of Canada's forestry production goes towards making pulp and paper. According to the Canadian Pulp and Paper Association, Canada supplies 34% of the world's wood pulp and 49% of its newsprint paper. If these paper products could be produced in some other way, Canadian forests could be preserved. Recently, a possible alternative way of producing paper has been suggested by agriculturalists and environmentalists: a plant called hemp. 
1.) The main idea of paragraph  is ? 

 a. Canadian forests are especially under threat.  
 b. Hemp is a kind of plant.  
c. Canada is a major supplier of paper and pulp. 
 d. Canada produces a lot of hemp. 

 เฉลย : ตอบข้อ C. คะ เพราะตั้งแต่ประโยคแรกถึงประโยคสุดท้าย ได้กล่าวไว้อย่างเจาะจงเลยว่า  ประเทศเเคนาดา เป็นแหล่งผลิตหลักของกระดาษ และ เนื้อไม้

ตัวอย่างที่สาม           
           Hemp has been cultivated by many cultures for thousands of years. It produces fibre which can be made into paper, fuel, oils, textiles, food, and rope. For centuries, it was essential to the economies of many countries because it was used to make the ropes and cables used on sailing ships; colonial expansion and the establishment of a world-wide trading network would not have been feasible without hemp. Nowadays, ships' cables are usually made from wire or synthetic fibres, but scientists are now suggesting that the cultivation of hemp should be revived for the production of paper and pulp. According to its proponents, four times as much paper can be produced from land using hemp rather than trees, and many environmentalists believe that the large-scale cultivation of hemp could reduce the pressure on Canada's forests. 
1.) The main idea of paragraph  is ? 

a. Paper could be made from hemp instead of trees. 
b. Hemp is useful for fuel. 
c. Hemp has been cultivated throughout history. 
d. Hemp is essential for building large ships.  
เฉลย : คำตอบคือ ข้อ a. Paper could be made from hemp instead of trees. สังเกตุจากประโยคสุดท้าย " According to its proponents, four times as much paper can be produced from land using hemp rather than trees " ซึ่งกล่าวว่า คนมักจะใช้กัญชาในการทำกระดาษมากกว่าต้นไม้ 

 2.) การอ่านแบบ scanning (การอ่านจับจุด)       

    คือ การอ่านผ่านๆ เพื่อจับประเด็นที่เราต้องการ เช่น ชื่อคน , เวลา , ตัวเลข หรือ คำสำคัญบางคำ เป็นต้น  จุดประสงค์ของการอ่านชนิดนี้ เพื่อหาข้อมูลบางอย่างเท่านั้น เช่น การดูตารางเวลาเรียน , การดูเวลาเที่ยวบิน เป็นต้น


ตัวอย่างแรก


E-Education begins                 
             RANGOON – Burma launched an ambitious e–education program over the weekend with the opening of 203 electronic learning centers in all states and divisions nationwide, official media reports said recently.          The “Electronic Data Broadcasting System” we officially inaugurated recently by the Ministry of Education and Ministry of Information, said the state run New Light of Myanmar newspaper. Under the program, students will have access to lectures on “academic subjects and technology subjects” at special learning centers via computer, satellite links and television.

1. Where in  Burma inaugurated e-education program?          
  a. Myanmar            b. Rangoon            c. all the states       d. centre of Burma 

เฉลย : คำตอบคือข้อ b. Rangoon คำแรกของประโยคแรกในเรื่อง บอกชัดเจนว่า  RANGOON (เมืองย่างกุ้ง) ของประเทศพม่า เป็นสถานที่ที่ใช้เริ่มโปรแกรมการเรียนการสอนแบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างเป็นทางการ 

2. When did e-education program open?    
        a. everyday         b. every week          c. every month       d. only weekend 
เฉลย : คำตอบคือข้อ  d. over the weekend ในย่อหน้าแรก เป็นคีย์เวิร์ด สำคัญนำไปสู่คำตอบที่ว่าโปรแกรมการเรียนการสอนแบบอิเล็กทรอนิกส์ เปิดให้บริการในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ (เสาร์ และอาทิตย์) เท่านั้น   

3. Which subjects do the students have on this program?          
  a. technology and academic subjects     
  b. academic subjects and electronic          
  c. technology and science subject                
  d. Mathematics and English 
เฉลย : คำตอบ คือ ข้อ a. technology and academic subject เทคโนโลยี และวิชาการ เป็นสองวิชา ที่นักเรียนจะได้เรียนในโปรแกรมนี้ ดู key word ได้จากประโยคที่ว่า " students will have access to lectures on “academic subjects and technology subjects”  

4. Ms. Chantana: Can I study the English subject via television?    
The students: ........................................................  
 a. Yes, I can.     b. No, I can’t.     c. Yes, you can.    d. No, you can’t 
เฉลย :  c. television คีย์เวิร์ด ในย่อหน้าสุดท้าย และคำสุดท้ายของเรื่อง ช่วยให้ได้คำตอบว่า นักเรียนสามารถเรียนภาษาอังกฤษ ผ่านโทรทัศน์ได้

ตัวอย่างที่สอง


               The White House, the official home of the President of the United States, was designed by the architect, James Hoban, who is said to have been influenced by the design of a palace in Ireland. The building was begun in 1792 and was first occupied by President and Mrs. John Adams in November 1800. The house received its present name when it was painted white after being damaged by fire in 1814. 

1. When was the White House first occupied ? 
เฉลย : คำตอบคือ The white house was first occupied in November 1800.  คำถามถามว่า The white house มีการดำรงตำแหน่งโดยประธานธิบดีครั้งแรกเมื่อไหร่ คำตอบคือ เมื่อเดือน พฤศจิกายน ค.ศ. 1800 Keyword ของคำตอบนี้ดูได้จากประโยคที่ว่า " was first occupied by President and Mrs. John Adams in November 1800."  
2. According to the passage, why was the President’s housecalled the ‘White House’ ? 
เฉลย : คำตอบคือ the house received its present name when it was painted white after being damaged by fire in 1814. คำถามถามว่า ทำไมบ้านของประธานาธิบดีถึงเรียกว่า "The white house" เนื่องจากมันถูกทาสีด้วยสีขาว เมื่อเกิดไฟใหม้ในปี 1814 Key word คือ ประโยคที่ว่า the house received its present name ซึ่งสังเกตุได้จาก When ซึ่งเป็นการบอกสาเหตุของชื่อ 

หวังว่าเพื่อนคงเข้าใจเรื่องการอ่าน แบบ Skimming และ Scanning ได้มากขึ้นบ้างนะคะ 
ใครมีอะไรสงสัยยังไงก็ comment ถามได้เลยค่ะ :)  

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

จุดประสงค์ของ Blog นี้คะ

สวัสดีเพื่อนๆ พี่ น้องทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยม Blog ของอุ๊กอิ๊กนะคะ

Blog นี้จะสอนวิธีการทำข้อสอบแนว Reading Comprehension  พร้อมแบบฝึกหัด ให้น้องๆรวมถึงผู้ที่สนใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษทุกท่านเลยนะคะ 


Blog นี้มีจุดประสงค์ดังนี้คะ

  1. เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจวิธีการทำ ข้อสอบแนว reading comprehension มากขึ้น
  2. เพื่อใช้ในการพัฒนาทักษะการอ่านหนังสือเรียน ,หนังสือพิมพ์,บทความ ฯลฯ เพื่อทำให้้เข้าใจเนื้อหานั้นๆมากยิ่งขึ้น


           เพื่อนทุกคน สามารถนำเนื้อหาของ Blog นี้เอาไปประกอบสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างอิสระเลยนะคะ ไม่จำเป็นต้องให้เครดิต เพราะ จุดมุ่งหมายของ Blog นี้เพื่อช่วยเผยแพร่ความรู้ให้เพื่อนๆอย่างทั่วถึงกันค่ะ